ประวัติวัดและพระพุทธรูป - kachon.com

ตั่งรองโต๊ะหมู่บูชาเขียนลายครุฑยุดนาค สันนิษฐานว่า มีมาตั้งแต่ปี ๒๔๔๑ คือปีฉลองวัด หลังเกิดอัคคีไฟไหม้พระอุโบสถ ปี ๒๔๓๘ เพราะมีการซ่อมพระอุโบสถครั้ังใหญ่ และมีการฉลองในปี ๒๔๔๑ และมีมาก่อนปี ๒๔๖๖  เพราะปรากฏภาพถ่ายว่า มีตั่งรองโต๊ะหมู่เขียนลายครุฑยุดนาคนี้ และในภาพนั้นมีภาพราวเทียนซึ่งเป็นเครื่องสังเค็ดงานพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลก กรมขุนเพ็ชรบูรณ์อินท

Read more

ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงสานต่อจนสำเร็จ ประจวบกับเวลานั้นทรงครองสิริราชสมบัติเสมอด้วยรัชกาลที่ ๒ จึงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระพุทธรูปทรงเครื่องขึ้นองค์หนึ่ง จำลองแบบอย่างพระพุทธนฤมิตร ในพระบรมมหาราชวัง เพื่อทรงบำเพ็ญพระราชกุศลพระราชอุทิศพระบาทสมเด็จพุทธเลิศหล้านภาลัย เมื่อ พ.ศ. ๒๔๒๖ แล้วให้อัญเชิญมาประดิษฐานในบุษบกยอดปรางค์หน้าพระอุโบสถวัดอรุณราชวราราม ลักษณะเป็นพระพุทธรูปยืน

Read more

โดยกระถางปลูกบัวหินที่ออกแบบใหม่นี้ มีความกว้างของขอบปากบน ๑ เมตร เป็นการเลียนแบบศิลปกรรมของกระถางปลูกบัวตรงทางขึ้นพระอุโบสถวัดอรุณราชวราราม โดยเพิ่มรายละเอียดด้านหนึ่งใส่ตราพระปรางค์ ใต้ตรามีอักษรชื่อวัดอรุณราชวราราม อีกด้านใส่ตราพระปรางค์ ใต้ตราอักษรชื่อ พระพรหมวัชรเมธี เจ้าคณะภาค ๙ เจ้าอาวาสวัดอรุณราชวราราม ปีพุทธศักราช ๒๕๖๗ โดยจะจัดตั้งคู่กับสิงห์โตหินวัดอรุณ

Read more

ต่อมาปูนบริเวณพระนาสิก (จมูก) เกิดกระเทาะออก เห็นเป็นเนื้อมรกต จึงกระเทาะปูนออกทั้งองค์ เห็นเป็นเนื้อหยกสีมรกตทั้งองค์ หลังจากนั้น พระเจ้าสามฝั่งแกนแห่งเชียงใหม่ทราบข่าวการค้นพบพระพุทธรูปนี้ จึงเชิญมาประดิษฐานที่เชียงใหม่ แต่ช้างทรงพระแก้วมรกตกลับไม่เดินทางไปยังเชียงใหม่ แต่ไปทางลำปางหากช้างนั้นมีพระแก้วมรกตอยู่บนหลังช้าง เชียงใหม่เห็นว่าลำปางก็อยู่ในอาณาจักรล้านนาจึงนำไปไว้ที่วัดพระแก้วดอนเต้า

Read more

วัดพระสิงห์ฯ เป็นวัดสำคัญวัดหนึ่งของเมืองเชียงใหม่ เป็นประดิษฐานพระสิงห์ (พระพุทธสิหิงค์) พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองเชียงใหม่และแผ่นดินล้านนา พระพุทธรูปเป็นศิลปะเชียงแสนรู้จักกันในชื่อ "เชียงแสนสิงห์หนึ่ง" พญาผายู กษัตริย์เชียงใหม่ราชวงศ์มังราย โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นในปี พ.ศ. ๑๘๘๘

Read more

สิงโตหินที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยมีสัญสัญลักษณ์รูปพระปรางค์วัดอรุณอยู่กลางด้านหลังของสิงโต ระบุปี พ.ศ. ที่สร้างไว้อย่างชัดเจน เป็นรูปปั้นสิงโตหินที่ออกแบบให้เป็นแบบของวัดอรุณราชวราราม เพื่อที่จะนำมาตั้งเป็นคู่ที่หน้าซุ้มประตูทางเข้าตามคณะต่างๆ หรือซุ้มประตูทั่วทั้งพระอาราม โดยจะตั้งคู่กับกระถางปลูกบัวที่กำลังออกแบบ ตามนโยบายของเทพเจ้าแห่งความเมตตา พระเดชพระคุณหลวงพ่อ พระพรหมวัชรเมธี เจ้าอาวาสวัดอ

Read more

เมื่อเข้าสู่ช่วงเปลี่ยนศตวรรษ เป็นการผจญภัยของ นักเดินทางชาวตะวันตก ๓ คน หรืออาจจะมากกว่านั้น และที่อยู่ตรงกลางภาพ ทางด้านขวา ได้สำรวจพบของโบราณวัตถุของอยุธยา ได้เก็บภาพนี้ไว้ สันนิษฐานว่า พระวิหารสร้างขึ้นในสมัยราวแผ่นดินสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง โดยพระมงคลบพิตรเคยประดิษฐานอยู่ที่วัดชีเชียงมาก่อน จนกระทั่งสมเด็จพระเจ้าปราสาททองโปรดให้รื้อซากของวัดชีเชียง แล้วให้ชลอพระพุทธรูปมาไว้ทางด้านทิศตะวันตก แล

Read more

เด็กชายวัยรุ่นได้ถ่ายรูปรวมหมู่เพื่อนๆ ในยุครัชกาลที่ 5 ณ วัดอรุณราชวราราม เมื่อปี พ.ศ.2429 แต่ได้สะดุดตาสังเกตการแต่งตัว ของเด็กชายขวามือสุด ใส่เสื้อขาว และทรงผม น่าจะเป็นคนจีน หรืออาจจะเป็นลูกครึ่งไทย-จีน ก็เป็นได้

Read more

เกาะน้อย เป็นเกาะขนาดเล็กเกาะหนึ่งกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ด้านหน้าวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร บนเกาะมีเก๋งจีนขนาดน้อยหลังหนึ่ง และมีต้นอินทผลัมสองหรือสามต้นขึ้นอยู่ มีภาพเพียงไม่กี่ชิ้นที่แสดงความมีตัวตนของเกาะน้อย ภาพหนึ่งที่มีชื่อเสียงคือ "ภาพเงาต้นไม้" ผลงานของฟรานซิสจิตร หรือหลวงอัคนีนฤมิตร (จิตร จิตราคนี) ที่ถ่ายเมื่อราว ปี พศ.๒๔๐๗

Read more

ต่อมาเมื่อ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 โปรดให้ขยายถนนบำรุงเมือง จึงได้โปรดให้ย้ายศาลเจ้าพ่อเสือมาไว้ที่ ทางสามแพร่ง ถนนตะนาว ซึ่งก็คือสถานที่ตั้งในปัจจุบันนั่นเอง

Read more